วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วิธีปรับระบบลำไส้อย่างง่าย เริ่มได้เลยที่บ้าน

เนื่องจากบีมสนับสนุนให้ทุกคนได้ดูแลผิวจากภายใน และมีผู้สนใจได้สอบถามเข้ามาอยู่เสมอ ๆ ถึงการปรับจากภายใน ล่าสุดนี้ มีลูกค้าสอบถามมาว่าจะทำอย่างไรกับสิวที่ขึ้นเป็นหัวขาวและแดงหลังจากออกเจแล้วนะคะ

อาหารเจนั้น ถ้าเลือกเป็นผัก เป็นน้ำพริกจะไม่มีปัญหาเลยค่ะ แต่ถ้าเป็น แป้ง ไขมัน รสเค็ม และนอกจากนี้ อาหารเจก็ถือว่าเป็นอาหารแปรรูปอย่างหนึ่ง จึงมีความร้อนค่อนข้างมาก จึงสามารถทำให้อาการสิวแย่ลงได้ค่ะ บีมเคยเขียนบล็อกเอาไว้เกี่ยวกับอาหารเจกับสิว ลองเข้าไปอ่านได้ค่ะ

คำยืนยันจากคุณสุรินทร์เรื่องอาหารเจ - สิว
คนเป็นสิวเลือกอาหารให้ดีในเทศกาลกินเจ

อย่าเข้าใจผิดว่าบีมกำลังบอกว่าการกินเจนั้นทำให้เป็นสิวหรือมีปัญหาสุขภาพนะคะ การกินเจนั้นดีค่ะ ได้บุญมาก ๆ แต่เราควรพิจารณาอาหาร พิจารณาเมนู เพราะอาหารประเภท แป้ง ไขมัน เค็มจัด หรือแปรรูปนั้นมักทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาเสมอค่ะ นาน ๆ ครั้งทานไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าทุกวันก็จะทำให้พิษสะสมในร่างกายได้ค่ะ และปะทุออกมาเป็นสิว

บีมจึงนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาสิวหลังออกเจ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกท่านที่หันมาดูแลร่างกายและรักษาสิวในแนวธรรมชาติบำบัดนะคะ ซึ่งเริ่มได้ไม่ยาก ทำได้ทันทีค่ะ แต่ต้องอดทนและรอคอยผลลัพธ์กันนิดนึงค่ะ แต่ถ้าหายแล้วก็มักจะหายไปเลยนะคะ อาจจะโผล่มาในช่วงที่เราไม่ค่อยดูแลสุขภาพแล้วค่ะ 


วิธีล้างพิษและพักร่างกายใน 2 สัปดาห์
(เพื่อให้เค้าฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้นค่ะ)
  • เนื้อสัตว์ใหญ่ (แต่ห้ามขาดโปรตีนนะคะ ให้ทานปลานึ่ง ปลาต้ม หรือนมธัญพืชบรรจุกระป๋องได้นะคะ เช่น VFit หรือพวกนมข้าวกล้องค่ะ หรือน้ำเต้าหู้ไม่เติมน้ำตาล)
  • ของหวานทุกชนิด
  • เบเกอรี่
  • ขนมถุง ขนมอบกรอบ อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (ที่ผสมสารกันบูดหรือแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ)
  • นมวัวและผลิตภัณฑ์ทุกชนิดจากนมวัว
ส่วนสิ่งที่ควรทานในช่วง 2 สัปดาห์นี้คือ
  • ผลไม้ฤทธิ์เย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง apple แดงหรือเขียว, สับปะรด, แตงโม, น้ำมะนาวไม่เย็น,สาลี่,มันแกว,ชมพู่ ทานทุกวันให้ได้อย่างน้อย 60% ของมื้อที่ทานนะคะ คือ หิวก็ทานพวกนี้เลยค่ะ
  • ซื้อนมแลคตาซอยหรือนมธัญพืชติดโต๊ะทำงานไว้เลยนะคะ หิวก็ดื่มนมได้เลยค่ะ
  • ตอนเช้าดื่มน้ำไม่เย็นผสมน้ำมะนาวสัก 1/2 ลูกหลังตื่นนอน 1-2 แก้วให้ได้ทุกวัน
  • การทานอาหารนั้น เน้นเป็นต้ม นึ่ง ลวก และเป็นผักค่ะ ถ้าทานข้าวกล้องจะดีมาก ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ และหนักที่มื้อเช้า ทานให้อิ่มค่ะ กลางวันน้อยกว่าเช้า และตอนเย็นถ้าทานผักผลไม้สดได้จะดีกว่าค่ะ หรือจะทานเป็นต้ม ๆ ก็ได้ เช่น สุกี้น้ำ หรือสลัดแบบน้ำใสค่ะ (อย่าทานน้ำครีมเด็ดขาดนะคะ)
วิธีการปรับปรุงคุณภาพลำไส้ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก คือ
  1. ล้าง
  2. เติมและซ่อมแซม
  3. บำรุงรักษา
การล้าง คือ การทาน Dtox และสวนล้างลำไส้นี่ล่ะค่ะ เป็นการล้างทั้งของเสียเก่าและ ใหม่ออกไปให้ลำไส้สะอาด Dtox ทานทุกวันอยู่แล้ว ส่วนการสวนล้างลำไส้ ถ้าสะดวก ลองทำทุกวันติดต่อกัน 14 วันนะคะ (อันนี้แอบยืมสูตรของคุณหมอในสำนักชีวจิตมาค่ะ พอดีว่ามีลูกค้ามาอัพเดทให้ฟังค่ะ ^^) แต่ถ้าไม่สะดวก ก็เอาเป็นสูตรคุณหมอที่ลูกค้าเคยไปหามานะคะ เธออยู่ภาคใต้ อันนั้นทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ แต่ว่าเรื่องอาหารเค้าจะเคร่งครัดมากค่ะ)

การเติม คือ การเติมจุลินทรีย์ที่ดีเข้าไป การซ่อมแซม คือ การรักษารอยรั่วและบริเวณที่อักเสบให้หายดีค่ะ
  • อันนี้บีมทานอยู่ทุกเช้าหลังตื่นนอนค่ะ เติมจุลินทรีย์ลงไปให้ลำไส้ค่ะ http://www.ahinnovation.com/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C/Be-v.html ขวดละ 600 บาทจ้า หรือสามารถทานนมหมักบัวหิมะได้ค่ะ ดูรายละเอียดเรื่องบัวหิมะได้ที่นี่ http://kefirthailand.exteen.com/ (บีมแนะนำว่าหมักด้วยนมแพะจะดีต่อผิวเป็นสิวค่ะ บีมเคยหมักด้วยนมวัว สิวขึ้นภายใน 2 วัน พอหยุดทานแล้วเปลี่ยนเป็นนมแพะ หายเลยค่ะ)
  • อันนี้น้ำมันมะพร้าวเข้าไปฆ่าตัวที่ไม่ดีและช่วยซ่อมแซมพร้อมปกป้องเซลล์ที่ชำรุดสึกหรอค่ะ http://www.coconut-virgin.com/home.html  อันนี้สามารถทานได้ทั้งเช้าหลังตื่นนอนหรือช่วงท้องว่างระหว่างวันค่ะ ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะต่อวันแล้วดื่มน้ำตามประมาณ 1 แก้วค่ะ
การบำรุงรักษา
คือการทานผักผลไม้ไม่หวานและมีเส้นใยอาหารสูง รวมไปถึงการทานข้าวกล้องด้วยค่ะ ถ้าวันไหนทานเนื้ออะไรก็ตาม วันนั้นควรทานสับปะรดสัก 1-2 ถุงด้วยนะคะ ^^ นอกจากนี้ให้ดื่มน้ำตามวิธีที่แนะนำค่ะ อย่าให้ลำไส้แห้ง ขาดน้ำ (เช้าหลังตื่นนอน 2 แก้ว ระหว่างวันจิบ ๆ เอาค่ะ ก่อนอาหาร 15 นาที ระหว่างอาหารและหลังอาหาร 30 นาทีไม่ควรดื่มน้ำ หรือดื่มไม่เกิน 1/2 แก้ว ถ้าช่วงไหนกระหายมาก ๆ หรือปากแห้งมาก ๆ ให้ดื่มเป็นแก้วได้เลยค่ะ แต่ห้ามดื่มน้ำเย็น น้ำหวาน หรือน้ำอัดลมเด็ดขาด)
การวัดว่าร่างกายมีน้ำเพียงพอหรือไม่ วิธีวัดง่ายมากค่ะ ริมฝีปากเราแห้งหรือชุ่มชื้น เพราะถ้าดื่มน้ำได้ถูกต้อง ปากจะชุ่มชื้นตลอดเวลาค่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้ลิปหรือวาสลีนเลย ถ้าช่วงไหนร่างกายขาดน้ำ คอจะร้อน ลมหายใจร้อน ปากแห้งเป็นขุย ทาลิปบาล์มหรือวาสลีนอย่างไรก็ต้องทาซ้ำค่ะ

ถ้าหากว่าทำ 3 อย่างนี้ผ่านไป 1-2 สัปดาห์แล้วยังมีสิวแดง ๆ อยู่ ให้ทานตัวนี้นะคะ
http://thaiherb.igetweb.com/product/207669/%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87.html เป็นแคปซูลย่านางค่ะ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นราชินีแห่งสมุนไพรฤทธิ์เย็นได้ค่ะ เพราะเค้าช่วยหักฤทธิ์ร้อน ปรับสมดุลได้ดีมากค่ะในด้านทำร้อนเป็นเย็น ^^

ลองปฏิบัติให้เป็นนิสัยเลยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีและผิวที่ดีตลอดไป

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เคสสิวเรื้อรัง (ตั้งแต่อายุ 14-ปัจจุบัน 23 ปี): สิวฮอร์โมน + การทานยาและผลิตภัณฑ์รักษาสิว

บีมขอนำเอาอีเมลนี้มาแชร์ที่นี่นะคะ เพราะ โดยปกติแล้ว ลูกค้าแต่ละเคสก็จะมีประวัติมาคล้าย ๆ กัน และมีคำถามเหมือน ๆ กันค่ะ บีมเลยคิดว่าการนำเคสต่าง ๆ ที่บีมได้ให้คำปรึกษาเอาไว้มาแชร์ที่นี่คงจะตอบข้อสงสัยผู้สนใจหลาย ๆ คนได้ดีนะคะ และก็จะพยายามนำมาลงเรื่อย ๆ ค่ะ ลองเทียบเคียงดูว่าของคุณเป็นสิวลักษณะไหน ก็สามารถลองนำสิ่งที่บีมแนะนำไปปฏิบัติได้นะคะ

สวัสดีค่ะพี่บีม  หนูอายุ  23 ปีค่ะเป็นสิวตั้งแต่อายุ 14 (หลังจากมีประจำเดือนค่ะ)  จนถึงปัจจุบันนี้  ใช้ครีมหลากหลายยี่ห้อแล้วเหมือน  บางช่วงก็ปล่อยไม่ใช้อะไร  แต่ก็ทนดูหน้าตัวเองไม่ได้ จนต้องคอยหาทางรักษา  ไปหาหมอก็แล้ว ก็ไม่ได้ผล  จนล่าสุดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วไปหาหมอแล้วหมอให้ยามาทานปรากฏว่าทานแล้วหาย  จึงทานมาตลอด แต่ตอนนี้หยุดมา  ประมาณ 2 เดือน (พยายามหยุดมาหลายครั้งแล้ว) พอหยุดทานยาสิวก็กลับขึ้นมาเหมือนเดิม  ที่หยุดทานยาก็เพราะหนูกินเป็นเวลานานกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อร่างกายในอนาคตค่ะ  ก็เลยอยากเลิกทานยานั้นค่ะ 
      ลักษณะสิวของหนูนะค่ะ  มันจะเป็นเม็ดเล็กๆค่ะ  ขึ้นเต็มหน้าพอจับหน้าจะรู้สึกหยาบเป็นเม็ด(จนไม่อยากจับหน้าตัวเองเลยค่ะ) นอกจากสิวเม็ดเล็กแล้วยังมีสิวเม็ดใหญ่ๆขึ้น ตลอดๆ สิวเม็ดเก่ายังไม่ทันหายเม็ดใหม่ก็ขึ้นมา ขึ้นมาแต่ละครั้ง 4-5 เม็ดเลยค่ะ  จนเดี่ยวนี้แผลเต็มหน้าไปหมดเลย 
      อาการอีกอย่างหนึ่งคือจะรู้สึกจะคัน ๆที่ใบหน้าด้วย ด้วยค่ะ   เหมือนมีตัวอะไรเล็ก ๆ อยู่บนหน้าค่ะ  (เพื่อนเค้าว่าเลือดเราไม่ดี)  แล้วนอกจากนั้นมันยังคันที่หลัง หน้าอก  คอ ด้วยค่ะ  และมีสิวขึ้นด้วยค่ะ 

ไม่รู้ว่าพี่บีมพอจะมีตัวยาที่รักษาอาการเหล่านี้ได้ไหมค่ะ  อีกอย่างหนึ่งที่กลัวค่ะ  ถ้าเลิกใช้แล้วมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกไหม  คืออยากรักษาให้หายขาดไปเลยค่ะ  ไม่ใช่ว่าเราจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์นี้ไปตลอดเหมือนตัวยาที่หนูเคยทาน 

                            ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
                 หวังว่าคงมีโอกาสได้เป็นลูกค้าของพี่นะค่ะ

สวัสดีค่ะ

ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณที่ไว้วางใจให้พี่ช่วยแก้ปัญหาสิวของหนูนะคะ

สิวที่เป็นตอนนั้นเป็นสิวฮอร์โมนค่ะ (อายุ 14 ตอนเริ่มมีประจำเดือน) จริง ๆ แล้วถ้าหากว่าเราดูแลตัวเองตามแนวธรรมชาติ พอการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเริ่มคงที่ มันจะยุบได้เองค่ะ แต่สิวที่เป็นมาอย่างต่อเนื่องนี้เกิดจากการที่เราใช้ครีมกับผิวที่เป็นสิวเพิ่มเติมในภายหลังด้วยค่ะ และผลิตภัณฑ์รักษาสิวหลายตัวก็มีส่วนทำให้ผิวอ่อนแอและทำให้ติดเชื้อง่ายขึ้นค่ะ

ส่วนยาที่หนูรับประทาน พี่คาดว่าน่าจะเป็นยาแก้อักเสบและโรแอคหรือแอคโนตินรึเปล่าคะ?

และจากสภาพผิวของหนูนั้น มันเป็นอาการขับสารพิษออกจากร่างกายค่ะ คนเป็นสิว 100% เมื่อทานยาแก้อักเสบหรือโรแอคในระยะเวลาหนึ่งหรือทานมาเป็นเวลานานจะเกิดผลต่อร่างกายดังนี้ค่ะ

  1. ยาแก้อักเสบที่ทานเป็นเวลานานเกินไปจะทำให้ตับทำงานหนักในการกำจัดสารตกค้างจากยา และยาตัวนี้จะไปฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ทั้งที่มีประโยชน์และทำให้เกิดสิวในตัวเราในเวลาเดียวกันค่ะ ทำให้ภูมิร่างกายอ่อนแอระยะยาว ในอวัยวะต่าง ๆ เนื้อเยื่อ และเลือดจะมีสารพิษตกค้างและเชื้อโรคที่ขยายตัว ทำให้ร่างกายพยายามกำจัดออกตลอดเวลาค่ะ จึงออกมาในรูปของสิวที่หนูเป็น รวมทั้งได้รับการกระตุ้นจากอาหารฤทธิ์ร้อน อาหารประเภทแป้งและน้ำตาล (อาหารส่วนใหญ่ที่เราทานประจำวัน) ความเครียด การนอนดึก การดื่มน้ำที่ไม่ถูกวิธี ฯลฯ พอได้รับการกระตุ้นจากสิ่งเหล่านี้จึงทำให้สิวเม็ดเล็กขึ้นมาอักเสบค่ะ
  2. ยาโรแอคหรือแอคโนตินนั้น เมื่อได้รับเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ไขมันในเลือดสูงขึ้น และมันจะไปสะสมที่ตับค่ะ ถ้าเรายิ่งท้องผูก ไขมันส่วนเกินเหล่านี้ก็จะระบายออกจากตับไม่ได้ คั่งค้างที่ตับ หรือออกไปกับกระแสเลือด ไขมันที่มีมากเกินไป ร่างกายก็พยายามกำจัดออกมาเรื่อย ๆ ค่ะ
และอีกอย่างแผลสิวหรือสิวของหนูจะหายช้าเพราะเลือดไม่ค่อยมีสารอาหารค่ะ เลือดเราจะไม่ค่อยมีคุณภาพเพราะเต็มไปด้วย ไขมัน สารเคมีตกค้างและของเสียส่วนเกินจากร่างกายที่มีมากเต็มพิกัดและไม่สามารถถูกกำจัดออกไปได้ทัน ตอนแรกขึ้นแต่ที่หน้า พอที่หน้ามาเต็มพิกัดแล้วก็จะเริ่มไปที่อก หลัง และถ้าเยอะมาก จะลามไปถึงหลังส่วนล่างหรือสะโพกเลยค่ะ

ดังนั้นถ้าหนูอยากหายขาด หนูต้องปรับความคิดใหม่ทั้งหมดค่ะ เพราะกระบวนการรักษาที่หนูเคยผ่านมาเป็นของแพทย์กระแสหลัก คือ ใช้ตัวยาระงับอาการที่เป็น แต่ไม่ได้ทำให้หายตลอดไปแต่กลับสร้างปัญหาใหม่ขึ้นเพิ่ม และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมหนูถึงเลิกไม่ได้กับการรักษาแบบเดิม

การที่หนูต้องการให้สิวหายขาดจากชีวิตไปเลย หนูต้องยอมที่จะปฏิวัติวิธีคิดในการรักษาและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเองใหม่ค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจ และปรับให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตหนูเลยค่ะ ไม่ควรคิดว่า 3 เดือน 7 เดือนหายเกลี้ยงโดยที่ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ของพี่ การใช้ผลิตภัณฑ์ของพี่นั้นจะช่วยในการเร่งกระบวนการ "ล้างพิษ" ทั้งภายในและภายนอก โดยหนูต้องทำควบคู่ไปกับหลักสุขภาพอื่น ๆ ด้วยนะคะจึงจะได้ผล 100% ซึ่งกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ พี่ไม่ทราบค่ะว่าเค้าจะทำงานอะไรอย่างไร หายแล้วต้องกลับมาใช้อีกหรือไม่ แต่พี่กล้าบอกว่า ผลิตภัณฑ์ของพี่ ถ้าหายแล้วและรู้หลักในการดูแลสุขภาพให้สมดุลแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกลับมาใช้อีกค่ะ

นั่นหมายถึง ผลิตภัณฑ์ของพี่ช่วยทำให้ร่างกายของหนูถ่ายเทของเสียออกจากร่างกายได้เร็วขึ้นกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายของหนูได้โฟกัสไปที่การซ่อมบำรุงตัวเองมากขึ้นและกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้นค่ะ

ถ้าถามพี่นะคะ หนูอยากล้างพิษออกไปเร็ว ก็ทานยาน้ำ Dtox และ Collagen+C ควบคู่กันหมดเลยทีเดียวค่ะ ส่วนที่ผิวหน้าหนูอาจจะเลือกเป็นเจ ลล้างหน้ากับ Acne Control Cream ไปก่อนก็ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับหนูว่า หนูเน้นการล้างพิษภายในก่อน หรือหนูจะทำไปพร้อม ๆ กันกับการล้างพิษที่ผิวหน้าเลยค่ะ

ถ้าหนูจะทำพร้อมไปกับการล้างพิษที่ผิวหน้าเลย สิ่งที่ควรต้องคำนึงคือ
เนื่องจากพิษสะสมในตัวเรามีมากและเรายังไม่เคยล้างพิษมาก่อนเลย ในช่วงแรก 1-2 สัปดาห์อาจจะต้องมีสิวขึ้นมาก่อนค่ะ ซึ่งต้องอาศัยการดื่มน้ำเปล่าไม่เย็นระหว่างวันช่วยเยอะ ๆ และมีการระบายพิษเช่น อบซาวน่า ขูดกัวซา ฯลฯ ออกกำลังให้เหงื่อออก ก็จะช่วยให้พิษสะสมออกจากร่างกายไปเร็วขึ้นค่ะ

หวังว่าพี่จะตอบคำถามหนูได้ตรงจุดนะคะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ
พี่บีม

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Dtox กับประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการล้างพิษ

รู้สึกจะมีคำถามยอดฮิตจากลูกค้าใหม่เสมอ ๆ ค่ะว่าทาน Dtox แล้วมันจะขับสิวออกมาหรือไม่

จากประสบการณ์การใช้ของบีม ของคนรอบข้างและลูกค้านะคะ บีมพบว่า
  • ในรายที่สิวไม่เยอะ สาเหตุของสิวมาจากลำไส้เป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีสิวขึ้นเป็นเม็ด ๆ ไม่กี่เม็ดค่ะ ซึ่งแนะนำว่าอย่าไปทำอะไรมันค่ะ แค่ทาน Dtox ต่อไป เดี๋ยวพอลำไส้สะอาดแล้วดีแล้ว (สัก 1 สัปดาห์ มันจะลงไปเองจริง ๆ โดยไม่ทันอักเสบเลย นอกจากจะทานอาหารฤทธิ์ร้อน นอนดึก หรือมีปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ ที่ส่งให้ร่างกายร้อน)
  • ในรายสิวเยอะหน่อยหรือเรื้อรังและสาเหตุของสิวมากกว่าที่ลำไส้ อาจจะใช้เวลานานกว่า 1 สัปดาห์ค่ะ แต่สิวมันจะไม่เห่อนะคะ เม็ดเก่าก็จะุยุบ เม็ดใหม่อาจจะขึ้นบ้าง ตามพิษที่หลงเหลืออยู่ แต่ความรุนแรงและปริมาณของสิวจะลดลงค่ะ
และมีข้อมูลเพิ่มเติมที่บีมพึ่งจะได้มาค่ะ

ลูกค้าท่านหนึ่ง ทาน Dtox มานานแล้วและทานเป็นประจำ และไม่เคยเป็นอะไรเลย ทานเพื่อรักษาสุขภาพค่ะ

อยู่ดี ๆ วันหนึ่ง เหมือนมีผดผื่นขึ้น จึงแปลกใจ กลัวว่าจะเป็น Dtox ปลอม เลยนำเฉพาะแคปซูลไปให้ซินแสจีนดูค่ะ โดยไม่ได้เล่าสรรพคุณอะไรหรือไม่ได้เอากระปุกให้ดูเลยค่ะ เพราะอยากรู้ว่าท่านจะวิเคราะห์ยังไง ตัวยามันมีอะไรผิดปกติรึเปล่า

ซินแสท่านแกะแคปซูลออกมา ขยี้ดูและเอามาดม ๆ ท่านบอกว่าตัวนี้ใช้ได้นะ ไม่มีอันตรายอะไร มันจะมีตัวที่ช่วยขับสารพิษและช่วยระบายนะ ทานต่อได้ แต่อาการที่เป็นคือ ลักษณะของงูสวัดค่ะ ซึ่งซินแสท่านไม่ได้ให้ยากินมาเพิ่ม ให้แต่เพียงตัวยาที่ทาที่ผิวหนังที่คันเท่านั้นค่ะ และลูกค้าก็ทาน Dtox ได้ต่อจนอาการหายไปค่ะ

บีมยอมรับค่ะว่า ตอนแรกคิดว่า Dtox จะช่วยขับล้างสารพิษเฉพาะในทางเดินอาหารและลำไส้เท่านั้น แต่จากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่า Dtox ช่วยขับสารพิษในที่อื่น ๆ ได้ด้วยโดยไม่ทำอันตรายต่อร่างกายเลยค่ะ

ก็เลยนำมาแชร์กันค่ะ

แต่ถ้าหากเพื่อนๆ และลูกค้ารู้สึกว่ามีอาการผิดปกติอะไรกับร่างกาย ไม่สบาย ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นโรคนี้อยู่ หรือมีโรคประจำตัวอะไร จะทาน Dtox ร่วมได้ัมั้ย สอบถามคุณหมอที่ดูแลได้นะคะ

ดังนั้น กับคำถามว่า ทานแล้วสิวจะขึ้นมั้ย ก็ตอบได้ข้างต้นนะคะ ^^ ถึงขึ้นก็ลงค่ะถ้าทานจนอาการดีขึ้น อาการสิวขึ้นเป็นแค่เพียงกระบวนการหนึ่งในการซ่อมแซมตัวเองค่ะ และก็ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ นะคะ ไม่งั้นพิษไม่ถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระหรือทางเหงื่อนะคะ ทานไปก็ไม่ไ้ด้ผลค่ะ เผลอ ๆ พิษที่ออกมาจากเซลล์นั้นเมื่อไม่ถูกขับออกไป จะแปรสภาพรุนแรงกว่าเดิมค่ะ ต้องรีบขับออกค่ะ

หลักการดื่มน้ำนะคะ
เช้า น้ำอุ่น หรือน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว 2 แก้วหลังตื่นนอน
ระหว่างวัน จิบน้ำไม่เย็นตลอดวัน ยกเว้นบ่าย ๆ ดื่มไปเลย 1 แก้วค่ะ ขอน้ำไม่เย็นค่ะ
ก่อนอาหาร 15 นาที ระหว่างอาหารและหลังอาหาร 30 นาทีไม่ควรดื่มน้ำหรือดื่มไม่เกินครึ่งแก้ว ห้ามเป็นน้ำเย็นเด็ดขาด

ดื่มได้แบบนี้ก็จะช่วยให้ Dtox มีประสิทธิภาพในการขับล้างสารพิษเพิ่มขึ้นค่ะ พิษที่ออกมาก็ไม่คั่งค้าง สิวจะได้ดีขึ้นเร็ว ๆ นะคะ ^^

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การประยุกต์ใช้ TM serum เพื่อแก้ปัญหาผิวแบบต่าง ๆ

ยินดีต้อนรับสู่ MarryBeam Holistic Blog นะคะ

บีมเปลี่ยนจาก MarryBeam Skincare มาเ็ป็น Holistic ก็เพราะเหตุผลที่ว่า บีมสนับสนุนให้ทุกคนมีผิวสุขภาพดีจากภายในค่ะ เพราะลำพังการพึ่งผลิตภัณฑ์โดยที่ไม่ปรับระบบภายในไปด้วยไม่สามารถให้ผลดีเท่ากับการแก้ไขและรักษาจากภายในค่ะ บีมยืนยันจากประสบการณ์ของตัวเอง คนรอบข้าง ผู้ที่บีมเคยให้คำปรึกษา รวมถึงลูกค้าทั้งหมดที่บีมดูแลอยู่

สำหรับบทความแรกนี้ บีมตั้งใจว่าจะเีขียนเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ TM serum เพื่อวัตถุประสงค์ในการดูแลผิวแบบต่างๆ ค่ะ รวมถึงการทำ Treatment ด้วยตัวเองเพื่อหน้าสะอาดใสอย่างใจด้วยค่ะ ซึ่งเป็นเทคนิคที่บีมได้ทดลองเอง เจ้าของบริษัทผลิตครีมแนะนำมา หรือลูกค้านำมาแชร์ให้ฟังค่ะ

เพื่อรักษาสิว

  • TM serum สามารถช่วยรักษาได้ทั้งสิวเม็ดเล็กและเม็ดใหญ่บนหน้า แต่จะไม่ใช่ลักษณะของการกดอาการเหมือนอย่างสเตียรอยด์ และถึงแม้จะมีคุณสมบัติในการผลัดผิว ก็ไม่ทำร้ายผิว ไม่ทำให้หน้าแห้งเหมือนอย่างการใช้ BP ซึ่งมีส่วนผสมของสารฟอกขาว (โดนผ้าแล้วสีจาง สีลอก) มีความเป็นกรดอ่อน ๆ และผสมผสานไปด้วยสารสกัดหลายตัวที่ทำหน้าที่ทั้งการสลายพันธะของผิวชั้นหนัง กำพร้าให้หลุดลอกอย่างอ่อนโยนพร้อมกระตุ้นให้เกิดการสร้างผิวใหม่ที่ผิวชั้น ล่าง จึงช่วยทำให้สิวเก่าที่อยู่ในผิวค่อย ๆ ถูกผลัดออกไปและมีผิวใหม่สุขภาพดีขึ้นแทนที่ และความเป็นกรดอ่อนสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคและเปิดรูขุมขน กำจัดสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวได้ดีขึ้น จึงช่วยลดปัจจัยการก่อสิวลงด้วยค่ะ
  • หลังล้างหน้าให้สะอาดแล้ว ลง TM serum ให้ทั่วหน้า ในครั้งแรก ๆ ทาทิ้งไว้ให้ได้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด (ถ้าเย็นจะดีมากค่ะ จะสบายหน้าดี แต่ถ้าไม่มีไม่เป็นไรค่ะ)
  • หลังจากนั้นลงมาส์กสาหร่ายต่ออีก 1-2 ชั่วโมงหรือทิ้งไว้ถึงเช้าได้เลยค่ะ (ถ้าง่วง)
  • ถ้าล้างออก ให้ซับหน้าแล้วทาครีมสาหร่ายต่อได้เลยค่ะ ทาบาง ๆ ให้ซึมไปเองเลย
เพื่อลดรอยสิวและหน้าใสสุขภาพดี 
(ทำได้ในขณะที่มีสิวหลงเหลือประมาณ 10% ค่ะ ที่สภาพผิวเหลือแค่สิวเม็ดเล็ก อุดตันที่ออกง่ายแล้ว แต่สิวอักเสบยังไม่แนะนำให้ทำนะคะ)
  • ล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้า (ถ้าแต่งหน้าให้ใช้ Cleansing Milk ล้างออกให้หมดก่อนแล้วตามด้วยเจลล้างหน้า) ซับหน้าให้แห้งหมาด
  • ลง Yogurt Scrub ขัดเบา ๆ ด้วยนิ้วนางหรือกลางให้ทั่วหน้าตามแนวโพรงขน (หน้าผากจากกลางสู่ด้านซ้ายขวา ส่วนอื่น ๆ ขัดแนวลงค่ะ ถ้ามีก้อน ๆ ขึ้นมาระหว่างขัด นั่นคือ เซลล์เก่าที่ตกค้างค่ะ ล้างออกด้วยวิธีธรรมดาไม่หมด ขัดสัก 5 นาที และอย่าปล่อยให้มันแห้ง ๆ ฝืด ๆระหว่างขัดนะคะ ให้เติมครีมเพิ่มถ้ามันเริ่มหนืด ๆ และสากมือ ไม่อย่างนั้น มันจะขูดผิวค่ะ เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด (ย้ำว่าน้ำเปล่านะคะ) ซับหน้า แล้วจะรู้สึกว่าหน้านิ่มและสะอาดใสขึ้นเยอะเลย
  • ลง TM serum ให้ทั่วหน้า 10-15 นาทีก็พอค่ะ เพราะเราขัดเซลล์ตายออกไปรอบนึงแล้ว ถ้าทาไว้นานไป จะระคายเคืองมากกว่าค่ะ แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด (เป็นน้ำเย็นจะดีมากเลย)
  • ลง Gluta-Serum ให้ทั่วหน้า ปล่อยให้ซึมเอง
  • ลงมาส์กสาหร่ายให้ทั่วหน้า 1-2 ชั่วโมงแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าหรือทิ้งไว้ทั้งคืนก็ได้ค่ะ (ถ้าง่วง) โดยปกติมาส์กสาหร่ายจะทำงานช่วงที่เค้าเย็นอยู่ ซึ่งสารในมาส์กจะซับพิษและบำรุงผิวในช่วง 1-2 ชั่วโมงค่ะ แต่ทิ้งไว้ทั้งคืนก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
  • ถ้าล้างออกสามารถลงครีมสาหร่ายต่อได้ค่ะแล้วเข้านอนได้เลย (ครีมสาหร่ายทาเฉพาะก่อนนอนเท่านั้น และทาบาง ๆ ค่ะ)
เพื่อทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยหรือมีิ้ริ้วรอยแห่งวัย
  • ล้างหน้าให้สะอาด
  • ใ้ช้ Yogurt Scrub (ทำเหมือนด้านบนเลยค่ะ)
  • ลง TM serum (ทำเหมือนด้านบนเลยค่ะ) ล้างออกด้วยน้ำเปล่าสะอาดเย็น
  • ลง Stem Gold Botox Serum ให้ทั่วหน้าแล้วเข้านอนได้เลยค่ะ
เพื่อทำให้ผิวขาวกระจ่างใส
  • ล้างหน้าให้สะอาด
  • ใ้ช้ Yogurt Scrub (ทำเหมือนด้านบนเลยค่ะ)
  • ลง TM serum (ทำเหมือนด้านบนเลยค่ะ) ล้างออกด้วยน้ำเปล่าสะอาดเย็น
  • ลง White Solution Serum หรือ Super VitC serum ให้ทั่วหน้าแล้วเข้านอนได้เลยค่ะ
เมื่อคุณเริ่มคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ของเราแต่ละตัวแล้ว และสภาพผิวเริ่มดีขึ้นแล้ว คุณสามารถประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ได้ตามสไตล์ของคุณเองนะคะ เป็น DIY ค่ะ ^^

หมายเหตุ
  • ผิวที่มีปัญหาสิวนั้น ควรรักษาสิวให้ดีก่อน ให้ผิวแข็งแรงก่อน ไม่ควรข้ามไปทำขั้นตอนอื่นค่ะ เพราะจะยิ่งทำให้อาการแย่ลง
  • เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ MarryBeam เป็นเวชสำอางชั้นสูงและมีความเข้มข้นในระดับที่รักษาผิวได้จริง ถ้าหากใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ล้างหน้าหรือบำรุงที่นอกเหนือจากที่แนะนำไป (ฟิสิโอเจลสำหรับผิวแพ้ง่าย, ลอรีอัลสูตรน้ำนม และ น้ำเกลือ Klean & Kare) บีมไม่การันตีผลค่ะและไม่รับรองว่าจะเกิดผลขึ้นอย่างไรต่อผิวหน้า เป็นความรับผิดชอบของคุณเองนะคะ