วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วิธีปรับระบบลำไส้อย่างง่าย เริ่มได้เลยที่บ้าน

เนื่องจากบีมสนับสนุนให้ทุกคนได้ดูแลผิวจากภายใน และมีผู้สนใจได้สอบถามเข้ามาอยู่เสมอ ๆ ถึงการปรับจากภายใน ล่าสุดนี้ มีลูกค้าสอบถามมาว่าจะทำอย่างไรกับสิวที่ขึ้นเป็นหัวขาวและแดงหลังจากออกเจแล้วนะคะ

อาหารเจนั้น ถ้าเลือกเป็นผัก เป็นน้ำพริกจะไม่มีปัญหาเลยค่ะ แต่ถ้าเป็น แป้ง ไขมัน รสเค็ม และนอกจากนี้ อาหารเจก็ถือว่าเป็นอาหารแปรรูปอย่างหนึ่ง จึงมีความร้อนค่อนข้างมาก จึงสามารถทำให้อาการสิวแย่ลงได้ค่ะ บีมเคยเขียนบล็อกเอาไว้เกี่ยวกับอาหารเจกับสิว ลองเข้าไปอ่านได้ค่ะ

คำยืนยันจากคุณสุรินทร์เรื่องอาหารเจ - สิว
คนเป็นสิวเลือกอาหารให้ดีในเทศกาลกินเจ

อย่าเข้าใจผิดว่าบีมกำลังบอกว่าการกินเจนั้นทำให้เป็นสิวหรือมีปัญหาสุขภาพนะคะ การกินเจนั้นดีค่ะ ได้บุญมาก ๆ แต่เราควรพิจารณาอาหาร พิจารณาเมนู เพราะอาหารประเภท แป้ง ไขมัน เค็มจัด หรือแปรรูปนั้นมักทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาเสมอค่ะ นาน ๆ ครั้งทานไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าทุกวันก็จะทำให้พิษสะสมในร่างกายได้ค่ะ และปะทุออกมาเป็นสิว

บีมจึงนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาสิวหลังออกเจ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกท่านที่หันมาดูแลร่างกายและรักษาสิวในแนวธรรมชาติบำบัดนะคะ ซึ่งเริ่มได้ไม่ยาก ทำได้ทันทีค่ะ แต่ต้องอดทนและรอคอยผลลัพธ์กันนิดนึงค่ะ แต่ถ้าหายแล้วก็มักจะหายไปเลยนะคะ อาจจะโผล่มาในช่วงที่เราไม่ค่อยดูแลสุขภาพแล้วค่ะ 


วิธีล้างพิษและพักร่างกายใน 2 สัปดาห์
(เพื่อให้เค้าฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้นค่ะ)
  • เนื้อสัตว์ใหญ่ (แต่ห้ามขาดโปรตีนนะคะ ให้ทานปลานึ่ง ปลาต้ม หรือนมธัญพืชบรรจุกระป๋องได้นะคะ เช่น VFit หรือพวกนมข้าวกล้องค่ะ หรือน้ำเต้าหู้ไม่เติมน้ำตาล)
  • ของหวานทุกชนิด
  • เบเกอรี่
  • ขนมถุง ขนมอบกรอบ อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (ที่ผสมสารกันบูดหรือแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ)
  • นมวัวและผลิตภัณฑ์ทุกชนิดจากนมวัว
ส่วนสิ่งที่ควรทานในช่วง 2 สัปดาห์นี้คือ
  • ผลไม้ฤทธิ์เย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง apple แดงหรือเขียว, สับปะรด, แตงโม, น้ำมะนาวไม่เย็น,สาลี่,มันแกว,ชมพู่ ทานทุกวันให้ได้อย่างน้อย 60% ของมื้อที่ทานนะคะ คือ หิวก็ทานพวกนี้เลยค่ะ
  • ซื้อนมแลคตาซอยหรือนมธัญพืชติดโต๊ะทำงานไว้เลยนะคะ หิวก็ดื่มนมได้เลยค่ะ
  • ตอนเช้าดื่มน้ำไม่เย็นผสมน้ำมะนาวสัก 1/2 ลูกหลังตื่นนอน 1-2 แก้วให้ได้ทุกวัน
  • การทานอาหารนั้น เน้นเป็นต้ม นึ่ง ลวก และเป็นผักค่ะ ถ้าทานข้าวกล้องจะดีมาก ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ และหนักที่มื้อเช้า ทานให้อิ่มค่ะ กลางวันน้อยกว่าเช้า และตอนเย็นถ้าทานผักผลไม้สดได้จะดีกว่าค่ะ หรือจะทานเป็นต้ม ๆ ก็ได้ เช่น สุกี้น้ำ หรือสลัดแบบน้ำใสค่ะ (อย่าทานน้ำครีมเด็ดขาดนะคะ)
วิธีการปรับปรุงคุณภาพลำไส้ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก คือ
  1. ล้าง
  2. เติมและซ่อมแซม
  3. บำรุงรักษา
การล้าง คือ การทาน Dtox และสวนล้างลำไส้นี่ล่ะค่ะ เป็นการล้างทั้งของเสียเก่าและ ใหม่ออกไปให้ลำไส้สะอาด Dtox ทานทุกวันอยู่แล้ว ส่วนการสวนล้างลำไส้ ถ้าสะดวก ลองทำทุกวันติดต่อกัน 14 วันนะคะ (อันนี้แอบยืมสูตรของคุณหมอในสำนักชีวจิตมาค่ะ พอดีว่ามีลูกค้ามาอัพเดทให้ฟังค่ะ ^^) แต่ถ้าไม่สะดวก ก็เอาเป็นสูตรคุณหมอที่ลูกค้าเคยไปหามานะคะ เธออยู่ภาคใต้ อันนั้นทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ แต่ว่าเรื่องอาหารเค้าจะเคร่งครัดมากค่ะ)

การเติม คือ การเติมจุลินทรีย์ที่ดีเข้าไป การซ่อมแซม คือ การรักษารอยรั่วและบริเวณที่อักเสบให้หายดีค่ะ
  • อันนี้บีมทานอยู่ทุกเช้าหลังตื่นนอนค่ะ เติมจุลินทรีย์ลงไปให้ลำไส้ค่ะ http://www.ahinnovation.com/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C/Be-v.html ขวดละ 600 บาทจ้า หรือสามารถทานนมหมักบัวหิมะได้ค่ะ ดูรายละเอียดเรื่องบัวหิมะได้ที่นี่ http://kefirthailand.exteen.com/ (บีมแนะนำว่าหมักด้วยนมแพะจะดีต่อผิวเป็นสิวค่ะ บีมเคยหมักด้วยนมวัว สิวขึ้นภายใน 2 วัน พอหยุดทานแล้วเปลี่ยนเป็นนมแพะ หายเลยค่ะ)
  • อันนี้น้ำมันมะพร้าวเข้าไปฆ่าตัวที่ไม่ดีและช่วยซ่อมแซมพร้อมปกป้องเซลล์ที่ชำรุดสึกหรอค่ะ http://www.coconut-virgin.com/home.html  อันนี้สามารถทานได้ทั้งเช้าหลังตื่นนอนหรือช่วงท้องว่างระหว่างวันค่ะ ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะต่อวันแล้วดื่มน้ำตามประมาณ 1 แก้วค่ะ
การบำรุงรักษา
คือการทานผักผลไม้ไม่หวานและมีเส้นใยอาหารสูง รวมไปถึงการทานข้าวกล้องด้วยค่ะ ถ้าวันไหนทานเนื้ออะไรก็ตาม วันนั้นควรทานสับปะรดสัก 1-2 ถุงด้วยนะคะ ^^ นอกจากนี้ให้ดื่มน้ำตามวิธีที่แนะนำค่ะ อย่าให้ลำไส้แห้ง ขาดน้ำ (เช้าหลังตื่นนอน 2 แก้ว ระหว่างวันจิบ ๆ เอาค่ะ ก่อนอาหาร 15 นาที ระหว่างอาหารและหลังอาหาร 30 นาทีไม่ควรดื่มน้ำ หรือดื่มไม่เกิน 1/2 แก้ว ถ้าช่วงไหนกระหายมาก ๆ หรือปากแห้งมาก ๆ ให้ดื่มเป็นแก้วได้เลยค่ะ แต่ห้ามดื่มน้ำเย็น น้ำหวาน หรือน้ำอัดลมเด็ดขาด)
การวัดว่าร่างกายมีน้ำเพียงพอหรือไม่ วิธีวัดง่ายมากค่ะ ริมฝีปากเราแห้งหรือชุ่มชื้น เพราะถ้าดื่มน้ำได้ถูกต้อง ปากจะชุ่มชื้นตลอดเวลาค่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้ลิปหรือวาสลีนเลย ถ้าช่วงไหนร่างกายขาดน้ำ คอจะร้อน ลมหายใจร้อน ปากแห้งเป็นขุย ทาลิปบาล์มหรือวาสลีนอย่างไรก็ต้องทาซ้ำค่ะ

ถ้าหากว่าทำ 3 อย่างนี้ผ่านไป 1-2 สัปดาห์แล้วยังมีสิวแดง ๆ อยู่ ให้ทานตัวนี้นะคะ
http://thaiherb.igetweb.com/product/207669/%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87.html เป็นแคปซูลย่านางค่ะ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นราชินีแห่งสมุนไพรฤทธิ์เย็นได้ค่ะ เพราะเค้าช่วยหักฤทธิ์ร้อน ปรับสมดุลได้ดีมากค่ะในด้านทำร้อนเป็นเย็น ^^

ลองปฏิบัติให้เป็นนิสัยเลยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีและผิวที่ดีตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น